เทคนิคการกัดเหล็กและอลูมิเนียมด้วย CNC เพื่อความแม่นยำสูง

การกัดเหล็กและอลูมิเนียมด้วย CNC ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในงานผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูง ซึ่งการเลือก Toolpath CNC, ความเร็วรอบ, ฟีดเรท และชนิดของคัตติ้งทูล ล้วนมีผลต่อคุณภาพผิวงานและอายุการใช้งานของเครื่องมือ การตั้งค่าที่ถูกต้องจะช่วยลดการสั่น ลดครีบ และเพิ่มความเสถียรในกระบวนการกัดวัสดุหนักอย่างเหล็กและวัสดุเบาอย่างอลูมิเนียม

1. การเลือกทูลสำหรับกัดเหล็ก (Steel Machining)

การกัดเหล็กต้องใช้ End Mill ที่มีความแข็งแรงสูง เช่น เคลือบ TiAlN หรือ HSS-Co เพื่อทนต่อความร้อน ควรใช้ความเร็วรอบ (Spindle Speed) ต่ำกว่าอลูมิเนียมเพื่อลดการสึกหรอ และควรใช้ CNC Coolant แบบน้ำมันตัดกลึงเพื่อเพิ่มการระบายความร้อนและลดการติดหนึบของเศษเหล็ก

2. เทคนิคการกัดอลูมิเนียม (Aluminum Machining)

การกัดอลูมิเนียมควรใช้ความเร็วรอบสูงและฟีดเรทเร็ว เนื่องจากอลูมิเนียมเป็นวัสดุอ่อน ควรเลือกทูลเคลือบ DLC หรือทูลเคลือบเพื่อกันเศษหลอมติด โดยควรใช้ High-Speed Machining เพื่อให้ผิวงานเรียบ ลดครีบ และลดโอกาสทูลติดเศษชิพ

3. การตั้งค่า Toolpath CNC ที่เหมาะสม

สำหรับการกัดเหล็กควรใช้ Toolpath แบบ Adaptive Clearing เพื่อรักษาโหลดคงที่ ลดการหักของทูล ส่วนงานอลูมิเนียมควรตั้งค่า Radial Engagement ต่ำเพื่อให้กัดได้เร็วและต่อเนื่อง การใช้ CAM Software อย่าง Fusion 360, Mastercam หรือ SolidCAM จะช่วยให้จัดการเส้นทางเครื่องมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ความแตกต่างของการกัดเหล็กและอลูมิเนียมด้วย CNC

  • เหล็กต้องใช้แรงตัดสูง ต้องเลือกทูลแข็งพิเศษ
  • อลูมิเนียมกัดเร็วกว่า ใช้ความเร็วรอบสูง
  • การใช้ Coolant มีผลมากกับเหล็กเพื่อลดความร้อน
  • อลูมิเนียมต้องป้องกันการจับตัวของเศษชิพ

สรุป

การกัดเหล็กและอลูมิเนียมด้วย CNC ต้องเลือกทูล วัสดุ และการตั้งค่าที่เหมาะสมกับชนิดวัสดุ การใช้เทคนิคที่ถูกต้องจะทำให้ได้ความแม่นยำสูง ลดต้นทุน เพิ่มอายุทูล และเพิ่มคุณภาพการผลิตในงาน CNC Manufacturing

ความคิดเห็น