เทคนิคการกัด 3D Surface ให้ผิวสวย งานเนียน ลดรอยมีด

การกัด 3D Surface เป็นขั้นตอนสำคัญในงาน CNC Machining โดยเฉพาะงานแม่พิมพ์ ชิ้นส่วนอุตสาหกรรม และงานออกแบบผลิตภัณฑ์ หากตั้งค่าการกัดไม่เหมาะสม จะทำให้ผิวงานหยาบ เกิดรอยมีด และต้องเสียเวลาเก็บงานภายหลัง บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก เทคนิคการกัด 3D Surface ให้ผิวสวย ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง

1. เลือกชนิดดอกกัดให้เหมาะกับงาน 3D Surface

ดอกกัดที่นิยมสำหรับงาน 3D Surface Machining คือ ดอก Ball Nose Endmill เนื่องจากสามารถกัดผิวโค้งและผิวอิสระได้เรียบกว่า การเลือกขนาดดอกกัดที่เหมาะสมจะช่วยลดรอยขั้นบันไดบนผิวงาน

2. ตั้งค่า Step Over ให้เหมาะสม

ค่า Step Over มีผลโดยตรงต่อความเรียบของผิวงาน หากต้องการผิวสวยควรตั้งค่า Step Over ประมาณ 5–15% ของขนาดดอกกัด แม้จะใช้เวลาการกัดนานขึ้น แต่จะได้ผิวงานที่เนียน ลดงานขัดแต่งภายหลัง

3. ปรับ Feed Rate และ Spindle Speed อย่างสมดุล

การตั้งค่า Feed Rate ที่เร็วเกินไปจะทำให้เกิดรอยกัดชัดเจน ในขณะที่ความเร็วรอบ (Spindle Speed) ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ผิวไหม้หรือเกิดครีบ การปรับค่าทั้งสองให้สัมพันธ์กันจะช่วยให้การกัด 3D Surface มีคุณภาพสูงขึ้น

4. เลือกกลยุทธ์การกัด (Toolpath) ที่เหมาะสม

กลยุทธ์การกัด เช่น Parallel, Scallop, Spiral หรือ Morph มีผลต่อทิศทางรอยมีดบนผิวงาน การเลือก Toolpath ที่เหมาะสมกับรูปทรงชิ้นงาน จะช่วยให้ผิวดูสม่ำเสมอและสวยงามมากขึ้น

5. ใช้การกัดเก็บผิว (Finishing Pass)

หลังจากกัดหยาบ (Roughing) ควรมีขั้นตอน Finishing โดยใช้ค่าการกัดที่ละเอียดขึ้น เพื่อลดรอยมีดและทำให้ผิวงานเรียบเนียน เหมาะสำหรับงานแม่พิมพ์และงานที่ต้องการความละเอียดสูง

สรุป

เทคนิคการกัด 3D Surface ให้ผิวสวย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่อง CNC เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการเลือกดอกกัด การตั้งค่า Step Over, Feed Rate และการเลือก Toolpath อย่างเหมาะสม หากนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ จะช่วยให้ได้ผิวงานที่เนียน สวย และลดเวลาการเก็บงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3D Surface,CNC Machining,กัดผิวงาน,ดอกกัด Ball Nose,งานแม่พิมพ์


ความคิดเห็น