ในอุตสาหกรรมการผลิตแม่พิมพ์ ความเร็ว (Speed) และคุณภาพพื้นผิว (Surface Finish) มักจะเป็นสิ่งที่สวนทางกันเสมอ แต่ด้วยเทคโนโลยีการกัดงานความเร็วสูง หรือ High-Speed Machining (HSM) ในปัจจุบัน เราสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ได้ บทความนี้จะเจาะลึกวิธีการตั้งค่าและกลยุทธ์ที่จะช่วยให้คุณลดเวลาการทำงาน (Cycle Time) แต่ยังคงความละเอียดของแม่พิมพ์ไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
1. การเลือกใช้กลยุทธ์ High-Speed Machining (HSM)
แทนที่จะใช้การกินลึกแบบเดิม ให้เปลี่ยนมาใช้การกินแบบ Trochoidal Milling หรือกลยุทธ์การรักษาภาระของเครื่องมือตัดให้คงที่ (Constant Tool Engagement) วิธีนี้ช่วยลดความร้อนสะสมและยืดอายุการใช้งานของ Tool ทำให้สามารถเร่ง Feed Rate ได้สูงสุดโดยที่ผิวงานไม่สั่นสะเทือน
2. การตั้งค่า Look-Ahead และ Acc/Dec ใน Controller
หัวใจสำคัญของการเพิ่มความเร็วคือฟังก์ชัน Look-Ahead ในเครื่อง CNC รุ่นใหม่ๆ เช่น G05.1 Q1 (Fanuc) หรือเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งจะช่วยให้คอนโทรลเลอร์อ่านโค้ดล่วงหน้าหลายร้อยบรรทัด เพื่อคำนวณการลดความเร็วเฉพาะจุดที่จำเป็น (เช่น มุมแคบ) ทำให้เครื่องเคลื่อนที่ได้อย่างไหลลื่น (Smooth Motion)
3. การจัดการเรื่อง Chip Load และความเร็วรอบ (Spindle Speed)
การคำนวณ Chip Load ที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญ หากคุณเพิ่ม Feed แต่ไม่เพิ่ม Spindle Speed ให้สัมพันธ์กัน จะทำให้เกิดแรงกดที่ Tool มากเกินไปจนผิวงานหยาบ การใช้สูตรคำนวณที่แม่นยำจะช่วยให้เศษโลหะนำความร้อนออกไปได้เร็วที่สุด
Pro Tip: การเลือกใช้ Solid Carbide End Mills ที่มีการเคลือบผิว (Coating) สำหรับงาน High Hardness จะช่วยให้คุณรักษาคุณภาพผิวแม่พิมพ์ระดับ Mirror Finish ได้แม้จะใช้ความเร็วสูง
สรุป
การเพิ่มความเร็วในการทำแม่พิมพ์ไม่ใช่แค่การเร่ง Feed Rate แต่คือการผสมผสานระหว่าง Software Strategy, Hardware Capability และ Cutting Tools ที่เหมาะสม หากทำได้ครบถ้วน คุณจะสามารถลดเวลาการผลิตลงได้ 30-50% โดยไม่ต้องเสียเวลามาขัดผิวงานเพิ่มในภายหลัง
CNC Machining, Mold and Die, High Speed Milling, Production Efficiency, เทคโนโลยี CNC, การผลิตแม่พิมพ์, ลดเวลาการผลิต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น