การทำงานของเครื่องตัดพลาสม่า CNC ทำงานอย่างไรบ้าง

เครื่องตัดพลาสม่า CNC (CNC Plasma Cutter) เป็นเครื่องมืออัตโนมัติที่ใช้หลักการของ การตัดด้วยความร้อน โดยอาศัยสถานะที่สี่ของสสารที่เรียกว่า พลาสม่า ในการตัดโลหะที่นำไฟฟ้าได้ทุกชนิด (เช่น เหล็ก, สแตนเลส, อะลูมิเนียม) อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ภายใต้การควบคุมของระบบคอมพิวเตอร์

1. หลักการสร้างและใช้พลาสม่า (Plasma Generation and Cutting)

กระบวนการหลักของการตัดพลาสม่าประกอบด้วย 4 ขั้นตอนสำคัญ ดังนี้:

1.1 การส่งแก๊ส (Gas Flow)

  • เครื่องจะจ่ายแก๊ส (เช่น อากาศอัด, ไนโตรเจน, ออกซิเจน, หรือส่วนผสมของอาร์กอน/ไฮโดรเจน) เข้าสู่หัวตัดพลาสม่า (Plasma Torch) ด้วยแรงดันและความเร็วสูง

1.2 การสร้างอาร์คไฟฟ้าและพลาสม่า (Electric Arc and Plasma Creation)

  • ภายในหัวตัด มี อิเล็กโทรด (Electrode) และ หัวฉีด (Nozzle)

  • เมื่อมีการจ่ายกระแสไฟฟ้าแรงดันสูงเข้าไประหว่างอิเล็กโทรดกับหัวฉีด จะเกิดประกายไฟ (Spark) ซึ่งทำให้แก๊สที่ไหลผ่านบริเวณนั้นแตกตัวเป็นไอออน (Ionized)

  • แก๊สที่แตกตัวเป็นไอออนจะกลายเป็นสถานะ พลาสม่า (Plasma) ซึ่งเป็นตัวนำไฟฟ้าที่มีอุณหภูมิสูงมาก (สูงถึง ถึง หรือมากกว่า)

1.3 การตัดชิ้นงาน (Cutting Action)

  • เมื่อพลาสม่าถูกสร้างขึ้น ระบบจะถ่ายโอนกระแสไฟฟ้าหลักไปยังชิ้นงานโลหะ (ชิ้นงานทำหน้าที่เป็นขั้วบวกในวงจร)

  • ลำพลาสม่า (Plasma Jet) ที่มีความร้อนสูงจัดจะถูกบีบให้พุ่งผ่านรูเล็ก ๆ ของหัวฉีดออกมาด้วยความเร็วสูงมาก

  • ความร้อนที่รุนแรงของพลาสม่าจะทำให้โลหะบริเวณที่สัมผัส หลอมละลาย (Melt) ทันที

  • แรงดันและความเร็วสูงของแก๊สที่ยังคงไหลอยู่จะ เป่า (Blow Away) โลหะที่หลอมละลายให้หลุดออกจากรอยตัด (Kerf) ทำให้ชิ้นงานขาดออกจากกันอย่างต่อเนื่อง

1.4 การควบคุมด้วยระบบ CNC

  • ระบบ CNC (Computer Numerical Control) ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนที่ของหัวตัดพลาสม่าไปตามแนวแกน X, Y, และ Z อย่างแม่นยำ ตามรูปทรงที่ผู้ใช้ได้ออกแบบไว้ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์

  • CNC จะควบคุมพารามิเตอร์ต่าง ๆ เช่น ความเร็วในการตัด (Cutting Speed), กระแสไฟฟ้า (Amperage), และระยะห่างระหว่างหัวตัดกับชิ้นงาน (Torch Height Control - THC) เพื่อให้ได้คุณภาพการตัดที่ดีที่สุด


2. ขั้นตอนการทำงานของเครื่องตัดพลาสม่า CNC

  1. การออกแบบ (Design): ผู้ใช้สร้างรูปทรงของชิ้นงานในโปรแกรม CAD (Computer-Aided Design)

  2. การสร้างโค้ดคำสั่ง (G-code Generation): ใช้ซอฟต์แวร์ CAM (Computer-Aided Manufacturing) แปลงไฟล์ออกแบบให้เป็นชุดคำสั่ง G-code เพื่อบอกเครื่องจักรว่าต้องเคลื่อนที่ไปที่ใดและเมื่อใดควรเริ่มตัด

  3. การเตรียมการ (Setup):

    • วางแผ่นโลหะบนโต๊ะตัดและต่อสายกราวด์เข้ากับชิ้นงาน

    • ตั้งค่าพารามิเตอร์การตัด (กระแสไฟ, ประเภทแก๊ส, แรงดัน) ในระบบ CNC

  4. การเริ่มต้นอาร์ค (Arc Initiation):

    • ระบบ CNC จะสั่งให้หัวตัดลดระดับลงไปยังความสูงเจาะ (Pierce Height)

    • เครื่องจะเริ่มกระบวนการสร้างพลาสม่า (Pilot Arc) และส่งกระแสไปยังชิ้นงาน

  5. การเจาะ (Piercing):

    • ลำพลาสม่าความร้อนสูงจะเจาะทะลุผ่านความหนาของแผ่นโลหะ

  6. การตัด (Cutting):

    • เมื่อเจาะทะลุแล้ว ระบบ CNC จะสั่งให้หัวตัดเริ่มเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางที่กำหนดใน G-code

    • ระบบควบคุมความสูงของหัวตัดอัตโนมัติ (THC) จะทำงานเพื่อรักษาความสูงระหว่างหัวตัดกับชิ้นงานให้คงที่ เพื่อให้ได้รอยตัดที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ

  7. สิ้นสุด (Completion): เมื่อตัดชิ้นงานตามรูปทรงที่กำหนดเรียบร้อย ระบบจะหยุดจ่ายกระแสไฟและหยุดการไหลของแก๊ส

สรุปส่วนประกอบหลัก

ส่วนประกอบหน้าที่
ระบบ CNCสมองกล ควบคุมการเคลื่อนที่ในแกน X, Y และ Z เพื่อให้ตัดตามรูปทรงที่ออกแบบไว้
แหล่งจ่ายไฟ (Power Supply)แปลงไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) เป็นกระแสตรง (DC) และให้กระแสไฟสูงที่จำเป็นต่อการสร้างอาร์คพลาสม่า
หัวตัดพลาสม่า (Torch)เป็นจุดกำเนิดของพลาสม่า ประกอบด้วยอิเล็กโทรด หัวฉีด และวงแหวนหมุนแก๊ส
แก๊ส (Gas/Compressed Air)เป็นตัวกลางในการสร้างพลาสม่า และใช้แรงดันสูงเป่าโลหะที่หลอมละลายออกไป
ระบบควบคุมความสูง (THC)ปรับระยะห่างระหว่างหัวตัดกับชิ้นงานโดยอัตโนมัติ เพื่อรักษาคุณภาพรอยตัด

ความคิดเห็น